ทันทีที่ได้รับหมายงานให้รับหน้าที่เดินทางไปสัมภาษณ์เอลแบร์ มันก็พลันให้คิดถึงภาพของบุรุษหน้าตาเคร่งขรึม ภาพจำของแฟนบอลหลายคนคือนัยตาที่มุ่งมั่น ดั่งฉลามได้กลิ่นคาวเลือดและหน้าที่ของเขาคนนั้นคือการยิงประตู!
139 ประตู จากการลงสนาม 265 นัด
4 ถาดแชมป์บุนเดสลีกา, 1 แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับบาเยิร์น มิวนิค
และยังรวมถึงแชมป์เดเอฟโพคาล 4 สมัย 1 ครั้งกับสตุ๊ดการ์ท และ 3 ครั้งกับเสือใต้
ทั้งหมดนี้คือเครื่องการันตีความเอกอุในเรื่องความสามารถ และโด่งดังสุดๆในลีกเมืองเบียร์แต่ในนามทีมชาติบราซิลกลับกลายเป็นคนละเรื่องกัน
แล้วเพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น ในคอลัมน์นี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของเอลแบร์และข้อคิดในการเป็นนักฟุตบอล รวมถึงคำสอนจากพ่อของเขาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตของคนไทยได้
เปิดบทสนทนา
บ่ายแก่ๆในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ เอลแบร์ในวัย 46 ปีได้ลงสนามเตะฟุตบอลกับแฟนคลับชาวไทย ณ สนามซูเปอร์คิก ลาดพร้าว 80 ด้วยสีหน้าอันยิ้มแย้ม
หลังจากอาบน้ำปะแป้งแต่งตัวเรียบร้อยก็ได้เวลาที่เจ้าตัวมานั่งให้สัมภาษณ์แบบสุดเอ๊กซ์คลูคลีฟกับทีมงาน Siamsport (ผมและกันโตน่า น้องร่วมแผนกที่หลายคนคงเคยเห็นในรายการ Siamsport Half Time)
โดยมี Mr. Dennis Kittel เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบุนเดสลีกาประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก และ Mr.Julian Kittel อีกหนึ่งเจ้าหน้าที่ของบุนเดสลีกา ให้การต้อนรับแบบเป็นกันเอง
และที่ขาดไม่ได้เลยคือคุณหยก อุทัยวรรณ ภัททวาทิน ล่ามไทย-เยอรมันสาวสวย ที่ย่อโลกของภาษาให้ทีมงานของเราได้สื่อสารกับเอลแบร์อย่างคล่องตัว
ผมยิงคำถามแรก หลังแขวนสตั๊ดไปนั้นทางเอลแบร์ได้ทำอะไรบ้าง โดยเขาตอบว่า "ปัจจุบันก็รับหน้าเป็นทูตให้แก่บาเยิร์น มิวนิค และเดินทางไปทั่วโลก ในช่วงที่อยู่ในเยอรมัน ก็จะเดินทางไปแข่งฟุตบอลกับทีมต่างๆ ในฐานะทูตสโมสร"
การเกษตรอันยั่งยืน
และหากใครที่ไปหาเรื่องราวของเขาในยูทูป จะเห็นได้ว่าเอลแบร์ยังอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำอยู่ในบราซิลคือการทำเกษตรกรรม โดยอดีตยอดกองหน้าชาวแซมบ้าได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าตนได้รับคำสอนจากพ่อว่า การทำเกษตรกรรมคือความยั่งยืน
"คุณพ่อของผมเคยสอนไว้ว่า ถ้ามีเงินให้ลงทุนในด้านการเกษตรเพราะว่าเงินจะไม่หายไปไหน และอีกอย่างหนึ่งคือการได้อยู่กับธรรมชาติทำให้เขามีความสุข ในการไปทำงานที่ต่างประเทศหรือในเมือง ชีวิตจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการได้อยู่กับธรรมชาติเป็นเหมือนการได้ผ่อนคลายได้พักผ่อน"
ได้ยินแบบนี้ด้วยความที่ตัวผมก็จบสาขาด้านการเกษตรมาเหมือนกัน(เศรษฐศาสตร์การเกษตร) ก็อดยิ้มไม่ได้ที่ได้รับความรู้สึกนี้จากเอลแบร์ อีกทั้งตอนที่ผมเสริมไปว่าผมก็จบมาด้านการเกษตร เขาก็ยื่นมือมาเชคแฮนด์ทันที
ความต่างของแต่ละลีกที่เคยเล่น
ก่อนจะนอกเรื่องไปกันใหญ่ ผมเลยตัดเข้าเรื่องของฟุตบอล
หลายคนคงไม่รู้รู้ว่าเส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นจากลีกเล็กๆกับกร๊าสส์ฮอปเปอร์ ในลีกสวิส ก่อนจะมาโด่งดังในลีกเยอรมันเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งเมืองน้ำหอมกับโอลิมปิค ลียง และกลับมาเยอรมันอีกครั้งกับโบรุสเซียร์ มึนเช่น กลัดบัค แล้วไปปิดอาชีพกับครูเซโร่ ในบ้านเกิด
ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 4 ลีกนี้คือ อย่างที่สวิตเซอร์แลนด์ จะเน้นให้วิ่งแต่เรื่องแท็คติคนั้นยังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ ส่วนเยอรมัน จะเน้นในเรื่องของแท็คติค ที่ฝรั่งเศสเป็นการผสมผสานกันระหว่างแท็คติคและการวิ่ง
ส่วนบราซิลนั้นจะเน้นการเล่นกับลูกฟุตบอลโดยใช้รายละเอียดเรื่องของความสามารถเฉพาะตัวเป็นส่วนใหญ่
จุดเริ่มต้นเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่
การเริ่มต้นจากลีกเล็กๆนั้นมันเป็นการช่วยสร้างเสริมให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ดีได้เพราะเป็นเหมือนการได้เรียนรู้จากศูนย์ไปเรื่อยๆจนสั่งสมประสบการณ์ได้ระดับหนึ่งและได้ย้ายมาอยู่ในลีกบุนเดสลีก้ากับสตุ๊ดการ์ทและบาเยิร์น มิวนิค จนพอได้มาอยู่กับลียง ก็ถึงจุดอิ่มตัวในของอาชีพลูกหนัง จนได้มาปิดอาชีพที่บ้านเกิดของตัวเอง
สิ่งสำคัญที่เอลแบร์ย้ำกับทีมงานของเราคือการจะเป็นนักฟุตบอลที่ดีได้นั้นต้องเริ่มจากจุดเล็กๆเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้ดี ทีละขั้นก่อนจะย้ายเข้าสู่ทีมใหญ่ โดยเจ้าตัวได้ยกตัวอย่างอย่างในลีกเยอรมัน นักฟุตบอลวัยรุ่นหลายคน เข้ามาสู่ทีมในเลเวลที่สูงเลยมักจะเอาตัวรอดไม่ค่อยได้ เอลแบร์จึงแนะนำว่าการมีประสบการณ์กับลีกเล็กๆแล้วค่อยๆฝึกฝนไปทีละขั้นๆเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างที่หลายคนเห็นคือฟิลิปป์ ลาห์ม ที่เริ่มต้นจากสตุ๊ดการ์ท ก่อนจะมาโด่งดังและเป็นตำนานกับบาเยิร์น มิวนิค
เอลแบร์ยังเล่าว่าความต่างของลีกบุนเดสลีกาในสมัยที่เขาเล่นกับในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ ในอดีตจะเน้นเรื่องมาตรฐานที่ฝึกฝนกันมา เน้นเรื่องของการยิงประตู แต่ในปัจจุบันหันมาเน้นเรื่องของแท็คติคเป็นหลักเน้นการไปกับลูกฟุตบอลมากขึ้น
ซึ่งบุคคลที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบการเล่นคือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นของบาเยิร์น มิวนิค ที่เน้นเรื่องการต่อบอลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแท็คติคที่เป๊ปเข้ามาใช้นั้นมีส่วนทำให้ผู้เล่นของเยอรมันมีคุณภาพมากขึ้นจนต่อยอดทำให้ทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์โลกมาครองได้
ส่วนเรื่องกองเชียร์ทีมไหนที่ส่งผลต่อความรู้สึกเวลาอยู่ในสนาม ทางเอลแบร์ยอมรับว่าสนามเวสต์ฟาเล่นของดอร์ทมุนด์ ที่เต็มไปด้วยสีเหลืองทั้งสแตนด์ ก็ทำให้อกสั่นขวัญแขวนได้เหมือนกัน และถ้าเทียบแฟนบอลเยอรมันกับฝรั่งเศสที่ไหนมีแฟนบอลเยอะกว่ากัน เอลแบร์ก็ตอบแบบอมยิ้มว่า "Deutschland" (ด๊อยชท์แลนด์)
เส้นทางกับทีมชาติบราซิล
หากใครจำได้ เมื่อปี 2000 ที่ทัพทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ ลงดวลแข้งกับทีมชาติไทย 1 ใน 11 นักเตะตัวจริงเซเลเซาชุดนั้น มีโจวานนี่ เอลแบร์ อยู่ด้วย ผมเลยถามกับเจ้าตัวว่า ณ ตอนนั้น กับ ตอนนั้น เมืองไทยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม?
โดยเอลแบร์ก็ยอมรับว่าเปลี่ยนไปแต่น่าเสียดายว่าครั้งนั้นเขาไม่ได้อยู่ในเมืองไทยนานเท่าไหร่นัก แต่เท่าที่มองก็เปลี่ยนไปพอสมควร
ส่วนในนามทีมชาติที่เขาไม่สามารถแจ้งเกิดได้มากนัก เอลแบร์ก็กล่าวติดตลกว่า ตนเกิดผิดยุคไปหน่อย เพราะแนวรุกของแซมบ้าตอนนั้นเต็มไปด้วยสตาร์ชื่อก้องโลก ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้, โรมาริโอ, ริวัลโด้ หรือโรนัลดินโญ่ ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะดาวรุ่ง
อย่างไรก็ตาม เอลแบร์เองก็มีความภูมิใจและดีใจที่ครั้งหนึ่งเคยได้เล่นให้ทีมชาติบราซิล
ถึงกระนั้นเอลแบร์ ก็เผยอีกว่าชื่อเสียงของเขาในบราซิลไม่โด่งดังเท่าในเยอรมัน ในอดีตการเข้าถึงเรื่องฟุตบอลยังไม่ทันสมัยเท่ากับในปัจจุบันและหากตอนนั้นมีความทันสมัยเหมือนในตอนนี้ ชื่อของเขาอาจเป็นที่รู้จักมากขึ้นในบราซิลก็เป็นได้ แต่การได้มาอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ก็ทำให้เขาได้รับโอกาสในนามทีมชาติ
ฟันธงบาเยิร์น มิวนิค -ลิเวอร์พูล
หลังจบบทสนทนาเกี่ยวกับตัวของเขา ผมจึงได้เริ่มถามคำถามเกี่ยวกับความเห็นส่วนตัวในเรื่องของฟุตบอลกันบ้าง และคงหนีไม่พ้นเรื่องของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่บาเยิร์น มิวนิค พบกับลิเวอร์พูล
โดยเอลแบร์ ก็ยอมรับว่ายากที่จะบอกว่าใครจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ โดยจุดเด่นของลิเวอร์พูลที่น่ากลัวคือ สามประสานแนวรุกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ อย่างไรก็ดีลิเวอร์พูลก็มีปัญหาในแนวรับที่บาดเจ็บหลายคน ตรงนี้อาจเป็นจุดด้อยที่ทำให้บาเยิร์น มิวนิค ได้เปรียบในจุดนี้
ซึ่งเขาก็ฟันธงว่า เกมแรกที่แอนฟิลด์ จะจบลงด้วยผลเสมอ ก่อนที่เกมที่สอง บาเยิร์น จะคว้าชัยได้ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า
จากการที่สองผู้เล่นอย่างอาร์เยน ร็อบเบน และฟร้องค์ ริเบรี่ เตรียมที่จะรีไทร์ออกจากทีม ผมจึงได้ถามว่าใครที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนในสองตำแหน่งนี้ได้ ซึ่งเอลแบร์ก็บอกว่ายากที่จะหาใครมาทดแทนทั้งสองคนได้ แต่ตอนนี้ทีมก็ยังมีแซร์จ นาร์บี้, คิงสลี่ย์ โกมัน ก็มีแนวโน้มที่จะพิสูจน์ตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้
บทสรุป
ข้อคิดที่ได้จากการสนทากับเอลแบร์นั้น จะเห็นได้ว่าการเกษตรมีความสำคัญต่อประเทศที่มีเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักซึ่งรวมถึงประเทศไทยเช่นกัน ดังที่เอลแบร์บอกนั้นว่าพ่อของเขาเคยสอนไว้ว่าการลงทุนกับการเกษตรเป็นสิ่งที่ยั่งยืน ดั่งที่ ร.9 ของเราเคยให้พระบรมราโชวาทไว้ว่า
"เศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการเกษตรกรแต่ไรแต่ไรแล้ว รายได้ของประเทศที่ได้มาจากการสร้างความเจริญด้านต่าง ๆ เป็นรายได้จากการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจกล่าวได้ว่า ความเจริญของประเทศต้องอาศัยความเจริญของการเกษตรเป็นสำคัญ และงานทุก ๆ ฝ่ายจะดำเนินก้าวหน้าไปได้ก็เพราะการเกษตรของเราเจริญ"
ส่วนเรื่องใครที่อยากเป็นนักฟุตบอลนั้น ทางเอลแบร์ได้ให้คำแนะนำว่า ควรเริ่มจากจุดเล็กๆแล้วค่อยๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนั้นค่อยต่อยอดไปยังจุดที่ท้าทายกว่า ซึ่งตรงนี้นับเป็นข้อคิดที่หลายคนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยเฉพาะน้องๆที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ปิดท้ายเรื่องการฟันธงศึกระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค กับ ลิเวอร์พูล นั้น เอลแบร์ก็ฟันธงว่า บาเยิร์น มิวนิค จะเป็นฝ่ายตีตั๋วรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้
ก่อนจะจากกันเอลแบร์ ก็กล่าวสวัสดีแฟนๆชาวไทย ขอให้ทุกคนมีความสุข และขอให้ทุกคนส่งกำลังใจให้บาเยิร์น มิวนิคในศึกบุนเดสลีกา
โดยทาง Mr. Dennis และ Mr. Julian ได้มอบเสื้อแข่งขันพร้อมลายเซ็นต์ของเอลแบร์ เป็นของที่ระลึกแก่ทีมงานของ Siamsport และหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกครั้ง..
Auf Wiedersehen
หวย เชื่อว่า ใครๆ ก็เล่นหวย ดีมั้ย ถ้าเรา เอาคนเล่นหวย มาเป็นลูกค้าเรา ง่ายๆ แค่เปิดไอดี ได้ไอดี รับหวย กรอกเลขหวย รับส่วนลด 30 เปอร์เซนต์ รับเงินทันที ที่ส่งหวย ไม่ต้องรอหวยออก หรือว่า รอข้ามวันเหมือนกับการส่งหวยให้ยี่ปั๊ว คุณสามารถควบคุม การกำหนดเล่นได้เอง และสำคัญ ถอนได้ทันทีหลังหวยออกไม่ต้องรอข้ามวันข้ามคืน สนใจสมัคร ทักไลน์ @winner928 มีทีมงานคุณภาพ พร้อมดูแลท่านตลอด 24 ชั่วโมง เข้าชมรายละเอียด www.winner928.com |
โพสต์โดย : rivaldo เมื่อ 17 ก.พ. 2562 15:49:32 น. อ่าน 211 ตอบ 0