Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ต้นทุนคาร์บอนของการตัดไม้ทำลายป่า
น้ำมันปาล์มได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา แต่ผลการศึกษาล่าสุดเป็นเครื่องเตือนใจว่าการปลูกพืชชนิดนี้อย่างเข้มข้นมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามมีทั้งวิธีแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว บทความวิเคราะห์ต้นทุนคาร์บอนและประโยชน์ของการเปลี่ยนป่าฝนเป็นสวนปาล์มน้ำมัน การประมาณการสูญเสียนี้สูงกว่าตัวเลขที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) เพื่อวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการทำสวนปาล์มน้ำมัน ยังสูงกว่าตัวเลขที่ใช้โดยหน่วยงานรับรอง
น้ำมันปาล์ม
อย่างยั่งยืนอีกด้วย การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าต้องไม่มองข้ามการสูญเสียคาร์บอนในดิน เนื่องจากปัจจุบันเกิดขึ้นกับวิธีการปัจจุบันเมื่อมีการปลูกในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่พรุ ในทางกลับกัน การทำสวนยางอย่างเข้มข้นนั้นเกี่ยวข้องกับการสูญเสียคาร์บอน 159 ตัน ในขณะที่การผลิตยางจำนวนมากนั้นเท่ากับ 116 ตัน ความแตกต่างระหว่างต้นปาล์มน้ำมันกับต้นยางพารานี้มีผลมาจากระยะเวลาหมุนเวียนของการปลูกปาล์มน้ำมันที่สั้นกว่า อย่างไรก็ตาม การทำสวนปาล์มน้ำมันมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำสวนยางอย่างเข้มข้นและกว้างขวาง ในแง่ของจำนวนมวลชีวภาพที่ผลิตได้เป็นตันต่อปีเมื่อเทียบกับการสูญเสียคาร์บอนที่เกิดขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งสามารถผลิตได้มากขึ้นในพื้นที่ขนาดเล็ก
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : boll
เมื่อ 5 เม.ย. 2566 10:48:17 น. อ่าน 73 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์