Menu

เรากลัวเพราะไม่รู้

 และไม่กลัวหากเรารู้ ในอดีตกาลพบว่ามนุษย์นั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับดวงวิญญาณและการเคารพบูชาในสิ่งที่มองไม่เห็น จนเมื่อวันเวลาผ่านเลยไป ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าแท้จริงแล้วความจริงในความไม่รู้นั้นเป็นเช่นไร วิถีชีวิตและความเชื่อต่างๆจึงได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของเหตุและผลมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าแสงสว่างจากความรู้ช่วยชี้ทางแห่งชีวิตเมื่อเราต้องพบกับปัญหาที่ไม่สามารถอธิบายได้ เป็นปกติที่มนุษย์จะมีความรู้สึกแบบนี้ ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือ สิ่งที่มนุษย์ไม่รู้มักกลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ชอบตามไปด้วย ความงาม  อาจจะเป็นความหวาดกลัวต่อสิ่งนั้น เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยต่อสิ่งที่มองไม่เห็นหรืออธิบายไม่ได้ ความไม่สะดวกสบายของหลายๆสิ่งที่ส่งผลทั้งร่างกายและจิตใจ, ความรู้สึกอึดอัด, ความยากลำบาก, ความตึงเครียด ฯลฯ เหล่านี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ชอบโดยจิตสำนึกพื้นฐาน และสิ่งที่มนุษย์ชอบก็เป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความงาม คือ สถานภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และความชื่นชมผ่านการเข้าใจและรับรู้ถึงความสมดุล สัดส่วน และ แรงดึงดูด ของสิ่งๆนั้น ซึ่งอาจจะเป็นบุคคล สัตว์ สิ่งของ เหตุการณ์ สถานที่ ดนตรี ศิลปะ หรือ ความคิด ส่วนด้านตรงกันข้ามของความงามสร้างประสบการณ์อีกขั้วหนึ่ง เป็นผลกระทบด้านตรงกันข้ามกับการรับรู้อย่างสิ้นเชิง ปัญหาคือ ‘แล้วอะไรคือเหตุแห่งความงามโดยธรรมชาติ?‘ ข้อถกเถียงนี้ทำให้เกิดข้อสรุปที่ว่า ความงามไม่ใช่ความคิดปัจเจกที่จะบอกว่าอะไรเป็นความงามก็ได้ขึ้นอยู่กับความเห็นของคนๆหนึ่ง แต่เป็นการทำความเข้าใจความงามโดยส่วนใหญ่ที่มนุษย์เข้าถึงได้ง่าย

โพสต์โดย : midnight midnight เมื่อ 21 เม.ย. 2566 13:26:18 น. อ่าน 58 ตอบ 0

facebook