Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
การศึกษาซึ่งตีพิมพ์เ
มื่อวันพุธในวารสาร PLOS One ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากเด็กกว่า 65,000 คนจากประเทศญี่ปุ่น พบว่าเด็กที่สัมผัสกับแมวหรือสุนัขในบ้านมีความเสี่ยงในการแพ้อาหารลดลง 13% ถึง 16% เมื่อเทียบกับทารกในบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง ผลการวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่าการสัมผัสสุนัขและแมวอาจเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการแพ้อาหารบางชนิด จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงและลดภาระการแพ้อาหาร ผู้เขียนเขียน งาจะเข้าร่วมรายการสารก่อภูมิแพ้ในอาหารที่สำคัญในวันที่ 1 มกราคม FDA กล่าว การศึกษาพบว่าเด็กที่สัมผัสกับแมวมีโอกาสเกิดอาการแพ้ไข่ ข้าวสาลี และถั่วเหลืองน้อยกว่า ในขณะที่เด็กที่สัมผัสกับสุนัขมีโอกาสน้อยที่จะแพ้ไข่ นม และถั่ว
การแพ้อาหารของแมว
แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องระหว่างเต่ากับนกกับการแพ้อาหาร แต่การสัมผัสหนูแฮมสเตอร์ในระหว่างการพัฒนาของทารกในครรภ์นั้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของการแพ้ถั่วเกือบสองเท่า ผู้เขียนคาดการณ์ว่าถั่วที่หนูแฮมสเตอร์กินอาจทำให้ทารกเกิดอาการแพ้ได้จากการสัมผัสทางกายภาพหรือฝุ่นในบ้าน กลไกที่แน่นอนยังไม่ชัดเจน แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการสัมผัสสัตว์เลี้ยงอาจเสริมสร้างไมโครไบโอมในลำไส้ของทารก ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในไมโครไบโอมของพ่อแม่หรือที่บ้าน
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : midnight
เมื่อ 5 มิ.ย. 2566 17:19:13 น. อ่าน 70 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์