Menu

การมีน้ำบนดวงจันทร์

จะมีความสำคัญหากมี การสร้าง ฐานดวงจันทร์แต่นักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกเชื่อว่าดวงจันทร์แห้งมานานหลายทศวรรษ บทความสามชิ้นของศาสตราจารย์ Arlin Crotts นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก ได้ตรวจสอบประวัติของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการมีน้ำบนดวงจันทร์ และค้นพบว่าชาวรัสเซียพบน้ำในหินดวงจันทร์ในปี 1976 สหรัฐอเมริกาส่งเคลเมนไทน์ไปยังดวงจันทร์ในปี พ.ศ. 2537 เพื่อใช้เรดาร์ค้นหาน้ำแข็งในน้ำโดยการวิเคราะห์คลื่นวิทยุที่สะท้อนออกมาที่พื้นผิว น้ำบนดวงจันทร์ และเป็นการพิสูจน์ผลึกน้ำแข็งของน้ำใต้พื้นผิวดวงจันทร์เป็น ครั้งแรกในโลกตะวันตก ภารกิจ Lunar Prospector ในปี 1998 ก็ค้นหาน้ำเช่นกัน คราวนี้โดยเปรียบเทียบปริมาณนิวตรอนที่ปล่อยออกมาจากพื้นผิวกับปริมาณที่ควรมีอยู่หากไม่มีน้ำให้ดูดซับ ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2009 ภารกิจของอินเดีย Chandrayaan-I พบหลักฐานของน้ำบนดวงจันทร์โดยใช้ภาพถ่ายอินฟราเรด นาซ่ายังทำการทดลองในปี 2552 ซึ่งจรวดเซนทอร์ที่ว่างเปล่าได้ชนเข้ากับปล่องภูเขาไฟ ที่มีเงาอย่างถาวร (สถานที่ที่น่าจะพบน้ำแข็ง มากที่สุด ) ยานเซนทอร์พุ่งชนดวงจันทร์ด้วยความเร็ว 2.5 กม./วินาที และก่อตัวเป็นหลุมอุกกาบาตลึก 4 เมตร กว้าง 25 เมตร ขนนกของวัสดุที่พุ่งออกมาได้รับการวิเคราะห์และพบว่ามีน้ำอยู่ประมาณ 5.6 เปอร์เซ็นต์

โพสต์โดย : midnight midnight เมื่อ 14 มิ.ย. 2566 15:44:23 น. อ่าน 62 ตอบ 0

facebook